เอาละคะ ถ้าอย่างนั้นแล้วอย่าเสียเวลากันเลย เราไปตะลุยแดนศิลปินแห่ง SM TOWN กันดีกว่าค่ะ ไปกันโลดดดดดดด !!
เริ่มจากบอยแบนด์วงแรก ผู้เป็นต้นกำเนิดบอยแบนด์ อย่างวง H.O.T
สำหรับวง H.O.T ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นต้นกำเนิดบอยแบนด์แห่งวงการเคป๊อปเกาหลี เป็นบอยแบนด์วงแรกของค่าย SM TOWN ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 5 คน ผู้ชายทั้งห้าคนได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตในฐานะวงบอยแบนด์ตั้งแต่ปี 1996 ปัจจุบันวง H.O.T ได้ยุบวงแล้ว มี มุน ฮีจุน เป็นหัวหน้าวง และในตอนนี้ คังตะ ยังคงอยู่ในฐานะนักร้องเดี่ยวของเอสเอ็ม
แต่เดิมชื่อแฟนคลับของวง H.O.T คือ Club H.O.T แต่เนื่องจากในปัจจุบันได้มีการยุบวงแล้ว แต่ยังเหลือ คังตะ ที่อยู่ในสังกัดเอสเอ็ม จึงได้เปลี่ยนชื่อแฟนคลับเป็น Club K.l.T และสีของแฟนคลับยังคงเป็นสีขาวเช่นเดิม
มาต่อกันด้วยวงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของเอสเอ็ม ผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นต้นกำเนิดเกิร์ลกรุ๊ปอย่างวง S.E.S
วง S.E.S พวกเธอถือเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกที่อยู่ในรุ่นบุกเบิกวงการเคป๊อปเกาหลีเช่นเดียวกันกับวง H.O.T ทั้งสองวงนี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นวง Top Korean ในยุค 90 โดยพวกเธอมีสมาชิกทั้งหมดสามคนประกอบด้วย คิม ยูจิน , บาดา และ ชู พวกเธอออกอัลบั้มภายใต้สังกัด SM ตั้งแต่ปีที่พวกเธอเริ่มใช้ชีวิตในเส้นทางของการเป็นนักร้องเมื่อปี 1997 จนกระทั่งปี 2002 ที่พวกเธอทั้งสามตัดสินใจแยกวงเนื่องจากสัญญากับต้นสังกัดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เพราะพวกเธอต้องการที่จะต่อสัญญาในฐานะนักร้องกลุ่มแต่ทางต้นสังกัดกลับต้องการต่อสัญญาในฐานะนักร้องเดี่ยว นั่นจึงทำให้พวกเธอตัดสินใจแยกวงและเดินไปตามทางของแต่ละคน
สำหรับแฟนคลับของวง S.E.S คือ Friend โดยมีสีประจำตัวของแฟนคลับคือสีม่วง ( Pearl Purple ) ที่ผ่านมาพวกเธอมีแฟนคลับคอยสนับสนุนเป็นจำนวนมากและหลากหลายประเทศ อาทิ เกาหลี และ ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ต่อกันด้วยบอยแบนด์วงที่สองของเอสเอ็ม ผู้เป็นตำนานของบอยแบนด์ต้นแบบที่ดีอย่างวง Shinhwa
วง Shinhwa พวกเขาถือได้ว่าเป็นบอยแบนด์วงที่สองของเอสเอ็มที่ประสบความสำเร็จหลังจากเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักร้อง พวกเขาเป็นวงบอยแบนด์ระดับตำนานที่อยู่ภายใต้สังกัดเดียวกันกับวง H.O.T และวง S.E.S และยังถือเป็นต้นแบบที่ดีของบอยแบนด์รุ่นน้องหลายวง หลังจากที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทาง SM แล้วพวกเขาก็หันไปต่อสัญญากับค่ายเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า Good Entertainment ในเดือนกรกฎาคม เมื่อปี ค.ศ.2003 โดยในนามของชินฮวา ( ยกเว้น ชินฮเยซอง ) พวกเขาได้ให้ความรักและความทุ่มเททั้งหมดกับงานเดี่ยว งานกลุ่ม และงานแสดงของตนเอง จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 2008 ในวันที่จัดคอนเิสิร์ตครั้งสุดท้าย พวกเขาได้ให้สัญญากับแฟนคลับของพวกเขาว่า พวกเขาจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดต้องเข้ากรมทหารเพื่อรับใช้ชาติ และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 พวกเขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งตามสัญญาที่เคยให้กับแฟนคลับทุกคน จะเห็นได้ว่าพวกเขาเป็นบอยแบนด์ระดับตำนานที่ไอดอลหรือศิลปินรุ่งหลังให้ความเคารถ และเป็นวงเดียวที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนสมาชิกเลยตลอด 14 ปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้พวกเขาสามารถขายบัตรคอนเสิร์ตได้มากกว่า 25,000 ที่นั่ง โดยขายหมดภายในเวลา 40 นาที นั่นจึงแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีพวกเขาก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอ
สำหรับแฟนคลับของพวกเขา มีชื่อว่า Shinhwa Changjo หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Changjo โดยมีสีที่แทนตัวแฟนคลับคือสีส้ม ซึ่งนอกใจในเกาหลีแล้วพวกเขายังแฟนคลับอีกจำนวนมากมายที่อยู่ต่างประเทศอาทิ ประเทศญี่ปุ่น
มาต่อกันที่วงดูโอวงแรกของค่ายเอสเอ็มที่ได้รับความนิยมสูงมาก วง Fly To The Sky
วง Fly To The Sky เป็นวงดูโอวงแรกของค่าย SM TOWN พวกเขาเริ่มต้นการใช้ชีวิตในฐานะนักร้องไอดอลของเกาหลีเมื่อปี 1999 โดยประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 2 คน คือ Fany (22) และ Brian (22) สำหรับ Fly to the Sky นี้ได้รับการตอบรับอย่างดีมากๆของผู้ฟังเพลง นั่นอาจเป็นเพราะความสามารถของตัวนักร้องเพลง รวมไปถึงการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่าง R&B และการเต้นอันทรงพลัง ส่วนชื่อ Fly to the Sky นั้นจำกัดความเหมือนกับเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวไปสู่อนาคตแห่งความฝันและ แสวงหาสิ่งที่ดีเลิศที่สุด Brian คิดเปรียบเทียบวงตัวเองกับวง R&B เชื้อสายอเมริกันอย่าง KC & Jojo ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่โด่งดังเท่า KC & Jojo ก็ตาม แต่ว่า Fly to the Sky ก็เติบโตอย่างรวดเร็วในวงการเพลงภายในบ้านตัวเอง พวกเขาออกอัลบั้มที่ 3 ในปี 2002 และมีเพลงชื่อ Sea of Love ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ "ว๊าว" ให้กับแฟนๆเพลงของพวกเขา เพลงนี้ทะยานขึ้นสู่อันดับบนๆของชาร์ตต่างๆอย่างงดงาม ในตอนแรกที่พวกเขาออกอัลบั้มนั้น จะมีสไตล์ต่างจากวงเกาหลีอื่นๆในขณะนั้น กล่าวคือ มีการใส่ดนตรีแบบ R&B อย่างเป็นเนื้อแท้จริงๆ แต่ภายหลังพวกเขาต้องการเจาะตลาดมากขึ้นทำให้ลดความเป็นเนื้อของ R&B มาเหลือเพียง Pop R&B เท่านั้น ซึ่งนั้นก็คือเพลง Sea of Love และมีอีกสองเพลงที่นักร้องทั้งคู่ร้องเดี่ยว ส่วนอีกเพลงหนึ่งซึ่งแต่งโดย Brain McKinght นั่นคือ Condition of My Heart ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่พวกเขาทั้งสองชื่นชอบอยู่ด้วย ถ้าคุณกำลังคิดว่า Fly to the Sky ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากฝั่งตะวันตกแล้วล่ะก็ มันอาจจะมีส่วนก็ได้เนื่องจาก Brian เป็นคนสัญญาติ เกาหลี-อเมริกัน ซึ่งเติบโตใน New Jersy อย่างไรก็ตามสมาชิกอีกคนในวงเกิดและโตในโซล นั่นหมายถึงในวงนี้มีการเจริญเติบโตในฝั่งตรงข้ามกันของโลก นอกจากพื้นเพชีวิตที่แตกต่างกันแล้ว สิ่งที่รวมพวกเขาไว้เป็นหนึ่งเดียวนั่นคือความชอบในเสียงเพลง ความชอบในสิ่งเดียวกันนั่นคือ R&B ในระหว่างที่กิจกรรมภายในวงของพวกเขาทำให้ไม่มีเวลาว่าง แต่เขาก็ยังพยายามหาเวลาว่างเพื่อหาสิ่งดีๆเข้าใส่ตัวเอง กล่าวคือ พวกเขาจะหาเพลงฟังกันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะแนว R&B ซึ่งมีนักร้องเพลง Brian McKnight, Usher และ Boyz II Men ทำให้พวกเขามีพลังในการต่อสู้ต่อไปตราบเท่าที่ไม่มีชื่อ Fly to the Sky หลงเหลืออยู่ พวกเขายังคงต้องการแต่งเพลงกันอย่างมาก แต่ว่าในตอนนี้เขาขอไปทำกิจกรรมต่างๆภายในวงกันก่อน
สำหรับแฟนคลับของวง Fly To The Sky นั้นมีชื่อแทนตัวแฟนคลับของพวกเขาว่า Fly High โดยแฟนคลับของพวกเขามีสีประจำตัวซึ่งสีนั้นก็คือสี Sky Blue
นักร้องเดี่ยวคนแรกของ SM ที่ได้รับความนิยมมากมายในหลายประเทศ นักร้องหญิงเดี่ยว Boa (โบอา)
นักร้องหญิงเดี่ยวโบอา เธอเริ่มต้นการใช้ชีวิตในฐานะนักร้องไอดอลเกาหลีเมื่อปี ค.ศ.2000 เธอได้รับความนิยมมากมายจากหลายประเทศในฐานะนักร้องหญิงเดี่ยวจากค่าย SM เธอประสบความสำเร็จเป้นอย่างมากหลังจากที่เธอเดบิวต์ โบอาเคยได้ขึ้นอันดับ 1 ในซิงเกิลออริกอนชาร์ต (Oricon) BoA เด็กสาวจากเกาหลีใต้ เริ่มเข้าวงการโดยสังกัดกับ SM Entertainment เมื่อเธออายุได้เพียง 10 ปีเท่านั้นเอง เธอเริ่มเข้าเรียนการแสดงที่บริษัท The Seoul-based record และเธอมีพรสวรรค์ทางด้านนี้อย่างมาก และทางโรงเรียนก็ได้สอนให้เธอร้องเพลงในภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษ อีกด้วย หลังจากนั้น 5 ปี เธอก็ได้ย้ายมาอยู่ที่บริษัท US record SM Entertainment และ BoA ได้สร้างกระแสความทันสมัยให้กับวัยรุ่นชาวเกาหลีใต้ ในเรื่องวัฒนธรรมใหม่ ๆ แม้แต่เรื่องรายการทีวี การ์ตูน เกมคอมพิวเตอร์ และแฟชั่น ทั่วทั้งเอเซีย และทั่วโลกได้รู้จัก มองเกาหลีในภาพลักษณ์ใหม่ เธอทำลายสถิติชาร์ตเพลงทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่นด้วยเพลง No.1, Valenti และ Listen to My Heart เธอปลุกให้ธุรกิจบันเทิงเกาหลีก้าวกระโดดขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำตลาดในญี่ปุ่น (ตัวเลขยอดส่งออกเพลงจากเกาหลี ทั้งหมด 75% มาจากเพลงของเธอ) และอีกทั้งยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าชื่อดังอย่าง Shiseido, Honda, KDDI, Au, Calpis และตอนนี้ล่าสุดคือ Gap ทางฝั่งญี่ปุ่น โบอายังเป็นไอคอนในการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นอีก ทางหนึ่งด้วย
สำหรับแฟนคลับของโบอานั้น ทางค่ายตั้งชื่อแฟนคลับของเธอไว้ว่า Jumping Boa โดยมีประจำตัวแฟนคลับคือสีเหลือง เธอประสบความสำเร็จอย่างมากในเกาหลีใต้ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในต่างประเทศหลายประเทศอีกอาทิ ญี่ปุ่นและอเมริกา จึงไม่แปลกถ้าเธอจะมีแฟนคลับที่รักและคอยสนับสนุนมากขนาดนี้
บอยแบนด์วงที่สามของค่ายเอสเอ็มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนถึงปัจจุบัน วงดงบังชินกิ (TVXQ)
วงดงบังชินกิ หรือ TVXQ เป็นวงบอยแบนด์ระดับตำนานอีกวงหนึ่งที่ยังคงมีชื่อเสียงอย่างมากในปัจจุบัน พวกเขาเดบิวต์เป็นนักร้องไอดอลแห่งเกาหลีเมื่อปี ค.ศ.2003 ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้ง 5 คน ยู-โนว ยุนโฮ หัวหน้าวง, แมกซ์ ชางมิน, ฮีโร แจจุง, มิกกี ยูชอน และเซีย จุนซู กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2009 แจจุง ยูชอน และจุนซู ฟ้องร้องตันสังกัด กิจกรรมต่าง ๆ ของวงจึงหยุดเป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน ภายหลัง สมาชิกทั้งสามลาออกไปตั้งวงใหม่ชื่อ เจวายเจ (JYJ) สังกัดซีเจสเอนเตอร์เทนเมนต์ (C-JeS Entertainment) ทงบังชินกีจึงกลายเป็นกลุ่มนักร้องคู่โดยเหลือสมาชิกคือ ยุนโฮ และ ชางมิน โดยวางจำหน่ายอัลบั้มภาษาเกาหลีที่ห้าในชื่อ Keep Your Head Down เมื่อมกราคม ค.ศ. 2011 และออกอัลบั้ม Catch Me และ Time เมื่อปี 2012 - 2013 และในปัจจุบันได้ออกอัลบั้ม Tense ซึ่งเป็นอัลบั้มครบรอบ 10 ปีของการเดบิวต์ ในปี 2014
สำหรับแฟนคลับของห้าหนุ่มวงดงบังชินกินั้น มีชื่อประจำตัวที่ใช้เรียกแทนชื่อแฟนคลับทั่วโลกว่า Cassiopia โดยมีสีประจำตัวที่แทนตัวแฟนคลับเหล่านั้นซึ่งก็คือ สีแดง ( Pearl Red ) และในปัจจุบันพวกเขาทั้งห้าแม้จะแยกวงกันแล้วแต่แฟนคลับทั่วโลกก็ยังคงสนับสนุนพวกเขาอยู่เช่นเดิมโดยมีความหวังว่าพวกเขาทั้งห้าจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในนามของดงบังชินกิ
วงดนตรีวงแรกที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ของพวกเขาทั้งสามคนทำให้วงกลายเป็นที่จดจำ วง TRAX
วง TRAX นั้นเป็นวงดนตรีวงแรกของค่าย SM TOWN เป็นวงดนตรีที่มีสมาชิกที่เล่นดนตรีได้เก่งไม่แพ้ใคร อีกทั้งยังไปร่วมฟีทเจอร์ริ่งให้ศิลปินคนอื่นๆมาแล้วมากมาย วงนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนประกอบไปด้วย เจย์ คิม, โน มินวู, คัง จองวู, คิม จองโม ปัจจุบัน วง TRAX เหลือสมาชิกเพียง 2 คน
สำหรับแฟนคลับของวง TRAX นั้น มีชื่อประจำตัวที่ใช้เรียกแทนแฟนคลับว่า TRAXIAN และมีสีประจำตัวที่แทนสีของแฟนคลับก็คือ Pearl Colbalt Blue ซึ่งอยู่ในรูปแบบของ Lightstick
วงเกิร์ลกรุ๊ปวงที่ถือว่าเป็นตำนานอีกวงของค่ายเอสเอ็ม วง CSJH THE GRACE
วง CSJH THE GRACE เป็นเกิร์ลกรุ๊ปอีกวงที่ถือได้ว่าเป็นตำนานของค่ายเอสเอ็ม เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 28 เมษายน 2005 ที่จีน ,1 พฤษภาคม 2005 ที่ เกาหลี, 25 มกราคม 2006 ที่ ญี่ปุ่น ที่มาของชื่อ "ชอนซังจิฮี มาจากพยางค์แรกของนามสกุลที่ใช้ในวงการของสมาชิก (ชื่อเก่า) ทั้ง 4 คน ซึ่งได้แก่ ชอนมู (สเตฟานี่) , ซังหมิ (ลีน่า) , จีซอง (ซันเดย์) และ ฮียอล (ดาน่า) เมื่อนำพยางค์หน้าสุดของนามสกุลของทั้ง 4 คน มารวมกัน จึงกลายเป็น "ชอนซังจิฮี"ซึ่งมีความหมายว่า ความรอบรู้และความยินดีปิติสุขแห่งสรวงสวรรค์
สำหรับแฟนคลับของวง CSJH THE GRACE มีชื่อประจำตัวที่ใช้เรียกแทนแฟนคลับว่า Shapley และมีสีประจำตัวของแฟนคลับก็คือสี Pastel หรือ Pearl Pink
บอยแบนด์วงแรกที่มีจำนวนสมาชิกเยอะที่สุดและโด่งดังไปทั่วโลก วง Super Junior
Super Junior เป็นบอยแบนด์วงแรกของเอสเอ็มที่มีสมาชิกเยอะที่สุดรวมทั้งสิ้นทั้งหมด 13 คน พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากเดบิวต์เป็นนักร้องในเพลง U ในเบื้องต้นพวกเขามีสมาชิกทั้งหมด 12 คน แต่ตั้งแต่ในปี 2006 ได้มีการเพิ่มสมาชิกเข้ามาในวงอีกคนหนึ่งซึ่งก็คือ โจ คยูฮยอน โดยในวงมีหัวหน้าวงที่ชื่อว่า อีทึก หรือชื่อจริงๆก็คือ ปาร์ค จองซู และในปี 2007 ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นกับวง Super Junior สมาชิกได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้และคนที่อาการเจ็บที่สุดก็คือ คยูฮยอน สมาชิกจึงต้องเลื่อนการโปรโมทอัลบั้มใหม่ออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกระทั่งอัลบั้ม Don't Don't ได้ออกมาทำให้พวกเขามียอดขายประมาณ 164,058 ชุดหลังจากปล่อยออกมาได้ 3 เดือน และในปี 2008 ได้มีซับยูนิตที่มีชื่อว่า Super Junior - M ที่ย่อมาจากคำว่า แมนดาริน ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คน โดยถูกสมาชิกถูกเพิ่มเข้ามาอีก 2 คนนั่นก็คือ เฮนรี่ และ โจวมี่ และในปี 2011 สมาชิกได้ถูกเพิ่มเข้ามาอีกสองคนเช่นกันนั่นก็คือ ซองมิน และ อึนฮยอก
ในปีเดียวกัน เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2008 ได้มีการเพิ่มซับยูนิตขึ้นมาอีกโดยใช้ชื่อว่า Super Junior - H ซึ่งย่อมาจากคำว่า Happy และหลังจากปล่อยออกมาได้เพียงแค่ 35 ชั่วโมงยอดขายก็พุ่งทะยานขึ้นสูงถึงประมาณ 3500 แผ่น นับว่าสถิติที่ดีมากเลยทีเดียว หลังจากมีซับยูนิตออกมาพวกเขาได้กลับมารวมตัวอีกครั้งเพื่อออกอัลบั้มที่มีชื่อว่า Sorry Sorry ในปี 2009 ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากกับเพลงที่คุ้นหูและท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์
ในปีเดียวกันนั้นสมาชิกชาวจีน หานเกิง ได้มีปัญหากับทางต้นสังกัดจึงตัดสินใจกลับไปอยู่ที่จีน หลังจากนั้นในปี 2010 พวกเขาได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอัลบั้ม Bonamana แม้จะขาดสมาชิกอย่าง หานเกิง และคิบอมที่ติดงานแสดง กับ คังอินที่ยังเกณฑ์ทหารอยู่ในกรม แต่เพลงของพวกเขาก็ยังได้รับความนิยมเช่นเดิม
พวกเขาออกอัลบั้มอย่างต่อเนื่องโดยหลังจากปี 2010 แล้วในปี 2011 พวกเขาได้ออกอัลบั้มที่ห้าซึ่งมีชื่อว่า Mr.Simple ซึ่งสามารถอยู่เป็นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงเกาหลีได้เป็นเวลานานถึง 5 สัปดาห์ อยู่บนชาร์ตของประเทศไต้หวันได้นานถึง 44 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังสามาถทำยอดขายได้มากกว่า 500,000 ก๊อปปี้ นับว่าเป็นอีกสถิติหนึ่งที่ดีมากเลยทีเดียว และในปี 2012 พวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มที่หกโดยมีชื่อว่า Sexy Free & Single ซึ่งสามารถยอดขายได้สูงถึง 356,431 ก๊อปปี้แม้จะน้อยกว่าเมื่อปี 2011 แต่ก็ต้องบอกได้เลยว่าในช่วงปี 2010 - 2012 พวกเขาสามารถทำยอดขายได้สูงมาเลยทีเดียว สามารถทำยอดขายได้สูงสุดติดต่อกันถึง 3 ปี เป็นการยืนยันว่าพวกเขาเป็นบอยแบนด์ที่มีการตอบรับอย่างล้นหลามจริงๆ
สำหรับแฟนคลับของวง Super Junior นั้นมีชื่อเรียกประจำตัวแทนแฟนคลับว่า E.L.F ซึ่งย่อมาจากคำว่า Everlastingfriend ที่แปลว่าเพื่อนกันตลอดไป โดยมีสีประจำตัวที่แทนตัวแฟนคลับก็คือ Pearl Sapphire Blue
นักร้องเดี่ยวสาวชาวจีนผู้ที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านดนตรีอย่าง จาง ลี่อิน (Zhang Liyin)
นักร้องเดี่ยวสาวชาวจีน จาง ลี่อิน เธอเกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1989 ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ในครอบครัวนักดนตรี ทำให้เธอมีพรสวรรค์ทางดนตรีตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่ของเธอพาเธอไปที่คอนเสิร์ตของพวกเขาเพื่อทำให้เธอได้รับฟังเพลงที่หลากหลาย ได้รับการเข้าเรียนไวโอลินเมื่อเธออายุได้ 3 ขวบเท่านั้น และเธอยังมีความสามารถในการแกะเพลงหลังจากที่เธอได้ฟังเพลงนั้นเพียงครั้งเดียว เธออยู่ภายใต้การฝึกให้เคยชินกับแนวเพลงคลาสสิก และโดยเฉพาะเพลงทางฝั่งยุโรป และอเมริกัน ซึ่งเธอยืนยันว่าจะไม่ร้องเพลงเหล่านั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อตอนเธอยังเด็ก
จาง ลี่อิ่นเริ่มสนใจวงการเพลงป็อปเมื่อเธอเติบโตขึ้น ในตอนที่เธออายุ 12 เธอเข้าเรียนโรงเรียนประถมโดยที่ โรงเรียนสอนดนตรี Xi-Chan ได้เห็นความสามารถของเธอจากการเล่นไวโอลิน อย่างไรก็ตาม ความฝันของเธอในเวลานี้คือการได้เป็นนักร้องไม่ใช่นักไวโอลิน ท้ายที่สุดแล้วพ่อแม่ของเธอก็ได้สนับสนุนเธออย่างเต็มที่ และเธอก็ได้รับความไว้วางใจในการคัดเลือก 10 นักร้องรุ่นเยาว์คุณภาพในการประกวดร้องเพลงภายใต้การสนับสนุนของกรุงปักกิ่ง
จนกระทั่งในปี 2003 เธอก็ได้ถูกค้นพบโดย S.M.Entertainment และจากนั้นเอง เธอก็ได้เดินทางไปเทรนในเกาหลี และยังเคยได้เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ Super Girls ของทางค่ายต้นสังกัด (ปัจจุบันโปรเจกต์ Super Girls เปลี่ยนเป็นวง Girls' Generation) จนปี 2006 ก็ได้มีซิงเกิลเปิดตัวครั้งแรกที่เกาหลี และล่าสุด เธอก็พร้อมแล้ว สำหรับอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกชื่อว่า “I Will” ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้กลับไปมีผลงานเพลงในบ้านเกิดตัวเองด้วย นอกจากนี้ จาง ลี่อิ่น ยังเป็นศิลปินจีนคนแรกที่จะสร้างกระแสเกาหลีแบบใหม่ โดยบริษัทเกาหลีเป็นครั้งแรกด้วย
จาง ลี่อิ่น เป็นศิลปินจีนคนแรกที่ได้รับการปลุกปั้นฝึกฝนจากสังกัดเพลงเกาหลีอย่าง S.M.Entertainment ต้นสังกัดของศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทงบังชินกิ,ซุปเปอร์จูเนียร์,คังตะ,โบอา โดยก่อนหน้านี้ เธอก็ได้มีซิงเกิลเปิดตัวในเกาหลีชื่อว่า “Timeless” ที่ได้ร่วมร้องกับ เซีย หนึ่งในสมาชิกของทงบังชินกี
อัลบั้ม แรกนี้ เปิดตัวด้วยเพลง “I Will” ซึ่งเป็นเพลงเก่าที่กลุ่มศิลปินหญิง SES เคยร้องเอาไว้เมื่อปี 2000 และยังมีมิวสิคซีรีส์เพลง “I Will” และ “Lovers” ได้นักแสดงทีมเก่าจากเพลง “Timeless” คือ 2 สมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์ ซีวอน และ ฮันคยอง มาร่วมแสดงอีกครั้งด้วย รวมถึงเพลง "One More Try" ที่นำมาร้องใหม่ในจังหวะสนุกสนาน ดัดแปลงจากเพลงเดิมที่ร้องโดยชอนชังจีฮี เดอะ เกรซ
สำหรับแฟนคลับของ จาง ลี่อิน นั้นมีชื่อเรียกประจำตัวแทนแฟนคลับว่า Chocolate โดยมีสีประจำตัวแทนแฟนคลับก็คือ Gold
เกิร์ลกรุ๊ปหญิงทั้งเก้าคนที่เป็นที่จดจำในชื่อของสาวที่มีเรียวขาสวย วง Girl's Generation (โซนยอชีแด)
วง Girl's Generation หรือชื่อเกาหลีก็คือ โซนยอชีแด เริ่มต้นการใช้ชีวิตของการเป็นนักร้องเมื่อปี 2007 ประกอบไปด้วยสมาชิกสาวทั้ง 9 คน ในเบื้องแรก เกิลส์เจเนอเรชันได้รับความสนใจระดับหนึ่งจากผลงานเพลงบางเพลง เช่น Into the New World และ Kissing You กระทั่งปี 2009 จึงได้รับความนิยมอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเพลง Gee ติดตลาดและได้รับการขนานนามว่าเป็น "เพลงแห่งทศวรรษ" ประจำสาธารณรัฐเกาหลี กลุ่มเกิลส์เจเนอเรชันมีสถานะมั่นคงในอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลีใต้มากขึ้นเมื่อเผยแพร่เพลงถัด ๆ มาในช่วงปี 2010 - 2011 คือ Tell Me Your Wish, Run Devil Run และ Oh! ต่อมาในปี 2012 ได้เริ่มดำเนินการตลาดในประเทศญี่ปุ่นอยู่ระยะหนึ่งจึงกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนแล้วเผยแพร่เพลง The Boys ซึ่งจัดทำเป็นสามภาษา คือ เกาหลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ นับเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของกลุ่ม ในปลายปี 2012 นั้น ปรากฏว่า ยอดขายอัลบัมเพลงและซิงเกิลทั้งหมดของกลุ่มอยู่ที่ 11,730,000 หน่วย เป็นเหตุให้กลุ่มได้รับรางวัลและสมญาต่าง ๆ เป็นต้นว่า "ผู้สร้างความบันเทิงซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุด" ประจำปี 2011 และ 2012 รวมถึง "นักร้องประจำชาติ" และ "กลุ่มนักร้องหญิงแห่งชาติ"
ภายหลัง เกิลส์เจเนอเรชันได้ขยายอุตสาหกรรมโดยตั้งกลุ่มย่อยชื่อ Girls' Generation - TTS หรือเรียกโดยย่อว่า แททีซอ (TaeTiSeo) มีสมาชิกคือ แทยอน ทิฟฟานี และซอฮยอน เปิดตัวด้วยอัลบั้ม Twinkle ซึ่งได้ความนิยมเป็นลำดับที่ 126 จากทั้งหมด 200 ลำดับ และเป็นอัลบั้มเพลงแนวเคป็อปที่อยู่ในลำดับสูงสุดบนผังตราบจนปัจจุบัน
สำหรับชื่อแฟนคลับของวง Girls'Generation มีชื่อเรียกประจำตัวแทนแฟนคลับว่า SONE หรือ โซวอน ย่อจากมาคำว่า So และ One ผสมกัน โดยมีสีประจำตัวแทนแฟนคลับก็คือ Peach Pink
บอยแบนด์ที่มีแสงเจิดจรัสผู้ขโมยหัวใจของเหล่าพี่สาวได้อยู่หมัด วง SHINEE
สำหรับวง SHINEE นั้นพวกเขาเริ่มต้นการใช้ชีวิตในฐานะนักร้องไอดอลเมื่อปี 2008 พวกเขาได้รับกระแสความนิยมมากมายนับตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ โดยเพลงเดบิวต์ของพวกเขาโด่งดังเป็นอย่างมากในหมู่พี่สาวทั้งในและต่างประเทศ เจ้าของเพลง นูนา นอมู เยปอ หรือ Noona You So Pretty โดยเพลงนี้กล่าวถึงความน่ารักของพี่สาวที่น้องชายต้องการสื่อถึง ในปีเดียวกันพวกเขาชนะที่หนึ่งในชาร์ตเพลงเกาหลีกับเพลง Love Like Oxygen นับว่าเป็นผลสำเร็จจากการพยายามทำงานอย่างหนักที่คุ้มค่ามากที่สุด วงชายนี่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน มี อนยู หรือ ลี จินกิ เป็นหัวหน้าวงและมีน้องเล็กของวงคือ ลี แทมิน
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในปี 2008 กับเพลง Love Like Oxygen พวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มอย่างต่อเนื่อง โดยใน 2008 พวกเขาออกอัลบั้มเป็นอัลบั้ม Repackage AMIGO และในปี 2009 พวกเขาได้ออกอัลบั้ม Romeo และ 2009 Year Of Us ซึ่งเป็นมินิอัลบั้ม โดยในปีนั้นพวกเขาได้กลับมาดังมากขึ้นอีกครั้งทันทีที่พวกเขาปล่อยเพลง Ring Ding Dong ออกมา ซึ่งได้รับความนิยมมากในสมัยนั้นจนถึงปัจจุบันด้วยเพลงที่มีท่อนที่ฮิตติดหูทำให้ผู้คนจำได้ไม่ยาก
ในปี 2010 พวกเขาออกอัลบั้ม Lucifer และ Repackage Hello แล้วในปี 2012 ได้ออกอัลบั้ม Sherlock ซึ่งได้รับความนิยมในท่าเต้นและเพลงที่มีแนวเกี่ยวกับนักสืบหรือ เชอร์ล็อก โฮล์ม และในปี 2013 พวกเขาได้ออกอัลบั้มอย่างต่อเนื่องถึง 4 อัลบั้ม เริ่มต้นด้วยอัลบั้ม Chapter 1.Dream Girl - The Misconception Of You โดยมีเพลงไตเติ้ลคือเพลง Dream Girl ที่ใช้ขาไมค์เป็นส่วนประกอบในการเต้น และอัลบั้มต่อไปคืออัลบั้ม Chapter.2 Why So Serious ? - The Misconception Of Me ที่มีเนื้อหาเน้นไปที่เรื่องความรักที่เกี่ยวกับโรมิโอจูเลียตโดยใช้ท่าเต้นที่เกี่ยวข้องกับซอมบี้ และอัลบั้มต่อไปคืออัลบั้ม Repackage The Misconception Of Me จนกระทั่งได้ออกอัลบั้มสุดท้ายของปี 2013 ก็คืออัลบั้ม Everybody ซึ่งเป็นมินิอัลบั้มที่เน้นท่าเต้นไปที่การเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ทำให้เกิดเป็นท่าเต้นยอดฮิตที่น่าสนใจขึ้นอีกครั้ง
สำหรับแฟนคลับของ SHINEE นั้น มีชื่อเรียกประจำตัวแทนแฟนคลับว่า SHINEE WORLD ซึ่งแปลว่าโลกของชายนี่ โดยมีสีประจำตัวแทนแฟนคลับก็คือ Pearlescent Sky Blue
วงเกิร์ลกรุ๊ปหลายสัญชาติที่ขโมยหัวใจของเหล่าพี่ชายมาได้อยู่หมัดเช่นกัน วง F(X)
วง F(X) หมายถึงสูตร ฟังก์ชั่น สัญลักษณ์ทางด้านคณิตศาสตร์ f(x) ขณะเดียวกัน f นั้นหมายถึงตัวย่อของคำว่า flower และ x หมายถึงโครโมโซมของเพศหญิง (XX) ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งห้าคน มีสมาชิกชาวจีนหนึ่งคนที่เป็นหัวหน้าวง ชื่อว่า วิคตอเรีย และมีน้องเล็กของวงถึง 2 คนคือ ซอลลี่ หรือ ชเว จินลี และ คริสตัล หรือ จอง ซูจอง อีกทั้งคริสตัลนั้นยังเป็นน้องสาวแท้ๆของเจสสิก้า หรือ จอง ซูยอน หนึ่งในสมาชิกของวง Girl's Generation อีกด้วย
ซิงเกิลแรกของพวกเธอคือ La Cha Ta ถูกเปิดตัวทางดิจิตอลวันที่ 1 กันยายน 2009 ตามด้วยทีเซอร์ที่สองเวลา 40 วินาที มิวสิกวีดีโอของพวกเธออัปโหลดไปยัง YouTube f(x) เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Samseong-dong Fashion Center เมื่อวันที่ 2 กันยายน ต่อมามิวสิกวีดีโอแบบเต็ม La Cha Ta ก็ออกมาหลังจากการเดบิวต์ในวันถัดไป และการเดบิวต์ครั้งแรกในรายการโทรทัศน์ก็เริ่มขึ้นในรายการ Show! Music Core ของสถานีโทรทัศน์ MBC เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2009
แนวเพลงของวง F(X) นั้นเป็นแนว เคป๊อป-แดนซ์ ซึ่งเป็นเพลงที่นิยมมากในแระเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเพลงในลักษณะนี้เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีร๊อก อาร์แอนด์บี และ อิเล็คโทรนิค ซึ่งเพลงเปิดตังอย่างเพลง La Cha Ta เป็นเพลงป๊อปแดนซ์ที่ให้สัมผัสแบบฮิพฮอพกรูฟผสมผสานไปพร้อมๆกับแนวอีเล็คทรอนิกา เป็นเรื่องราวของการส่งผ่านข้อความเชิญชวนให้ทุกคน 'ใช้ชีวิตด้วยความสนุกสนานและตื่นเต้น' ผ่านทางเนื้อเพลงและเมโลดี้ในรูปแบบที่สนุกสนานผสมผสานออกมาในเสน่ห์ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนเพลง Chu~♡ เป็นแนวเพลงยูโรป๊อปที่มาจากเทรนด์ที่มีความนิยมจากยุโรป พร้อมกับเสียงกลองที่ใช้ในเพลงแอฟริกัน , NU ABO เป็นเพลงแนวแดนซ์รีเวิร์สบีท (Reverse Beat) ที่เตรียมเล่าเรื่องราวของมุมมอง, บุคลิก, และรสนิยมแบบเฉพาะตัวในสไตล์วัยรุ่นเลือดยุคใหม่ตามแบบฉบับของ f(x) ส่วนเพลง Mr.Boogie เป็นเพลงแนว synth-pop ที่จะฮิตติดหูตั้งแต่เพียงครั้งแรกที่ได้ฟัง ด้วยวลีที่มีพลัง และเสียงดนตรีที่ตึงตัง
ผู้ที่ได้ยอมรับว่ามีความสามารถในการร้องสูงสุด คือ ลูน่า(เสียงหลัก), คริสตัล(เสียงนำ), ซอลลี่(เสียงเสริม) ตามลำดับ ส่วนด้านการแร๊พ นั้นก็คือ แอมเบอร์ ซึ่งเป็นการแร๊พที่ไม่สามารถหาฟังได้ที่ไหน จากเกิร์ลกรุ๊ปต่างๆ ซึ่งแอมเบอร์เป็นแร๊พเปอร์คนเดียวของวงด้วย
F(X) ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Asia's Pop Dance Group ซึ่งสมาชิกแต่ละคนมีความสามารถในการเต้นเป็นอย่างดี เริ่มด้วยลีดเดอร์อย่าง วิคตอเรีย ซึ่งเธอมาพร้อมกับความสามารถด้านการเต้นที่หาตัวจับยาก เธอถนัดในการเต้นแนวแจ๊สมากที่สุด เธอมีความสามารถในการเต้นต่างๆอย่างมากมาย ทั้ง แจ๊ส, บัลเล่ต์, รำมวยจีนและอีกทั้งด้านฮิพฮอพ อีกด้วย เธอมีความหยืดหยุ่นในตัวเองสูงมาก เธอได้รับโชว์ความสามารถด้านความหยืดหยุ่นนี้ในเพลง Chu~♡ (การตีลังกา) และ NU ABO (การแตะขาขึ้นแบบ 180 องศา) ต่อมาลูนาก็มีตวามสามารถในการเต้นเป็นอย่างมาก ทั้งการเต้นแบบ ป๊อปปิ้ง ตัสติ้ง โรบอทติ้ง ฮิพฮอพ ซึ่งเธอเต้นได้แข็งแรงเป็นอย่างมาก ส่วนคริสตัล ซอลลี่และแอมเบอร์ ก็มีความสามารถในการเต้นที่อยู่ในระดับที่ดีอีกด้วย
สำหรับแฟนคลับของ F(X) นั้น ยังไม่มีชื่อเรียกประจำตัวแทนแฟนคลับที่เป็นทางการ แต่มีข่าวลือออกมาว่ามีชื่อว่า Answer ความหมายคือเมื่อศิลปินคือสมการ แฟนคลับก็คือคำตอบ ถึงแม้จะยังไม่คอนเฟิร์มแต่พวกเธอก็มีสีประจำตัวแทนแฟนคลับของพวกเธอคือ Pearl Light Periwinkle
บอยแบนด์รุ่นน้องผู้มาจากต่างดาวมีพลังวิเศษเป็นของตัวเองในทีเซอร์ วง EXO (เอ็กโซ)
วง EXO หรือที่รู้จักกันในนามของผู้มีพลังวิเศษเป็นของตัวเองที่มาจากต่างดาวนั่นก็คือ EXO PLANET พวกเขาเป็นอีกวงที่เรียกได้ว่ามีทีเซอร์เดบิวต์เป็นของตัวเองเยอะที่สุด อีกทั้งยังรวบรวมคนที่มีหน้าตาและความสามารถที่จัดได้ว่าดีเยี่ยมอยู่มากมาย เป็นวงบอยแบนด์สัญชาติเกาหลี และจีน มีสมาชิก 12 คน โดยเอ็กโซแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ EXO-K และ EXO-M เพื่อโปรโมตในเกาหลีใต้ และจีน ตามลำดับ พวกเขาเปิดตัวพร้อมกันทั้งในเกาหลีใต้และจีน โดยมีซิงเกิลเปิดตัวคือ MAMA ซึ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2555 ตามมาด้วยการเปิดตัวอีพีของเพลงดังกล่าว ในวันต่อมา
ประกอบไปด้วยสมาชิกดังนี้
EXO-K: Kai, Se Hun, D.O, Chan Yeol, Baek Hyun, Su Ho
EXO-M: Xiu Min, Lu Han, Lay, Chen, Tao, Kris
ในปีที่พวกเขาเดบิวต์เป็นนักร้องเมื่อปี 2012 พวกเขาเดบิวต์ในเพลง MAMA และมีเพลงปล่อยตามออกมาแทบจะพร้อมๆกันก็คือเพลง History เจ้าของท่าเต้นเขย่ากระเป๋ากางเกงถือเป็นอีกท่าเต้นที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเช่นกัน และอีกเพลงคือเพลง What Is Love เป็นเพลงบัลลาดที่แสดงให้เห็นถึงพลังของเสียงที่แท้จริง โดยเวอร์ชั่นเกาหลีจะร้องโดย EXO - K ดีโอ แบคฮยอน และเวอร์ชั่นจีนจะร้องโดย EXO - M ลู่หานและเฉิน
ในปี 2013 พวกเขาได้ออกอัลบั้มถึงสามอัลบั้มติดต่อกัน โดยอัลบั้มแรกในชีวิตของพวกเขาก็คืออัลบั้ม XOXO Kiss & Hug ในเวอร์ชั่นเกาหลีจะมีชื่อเป็นเวอร์ชั่น Kiss และเวอร์ชั่นจีนมีชื่อเป็น Hug โดยมีเพลงไตเติ้ลคือเพลง Wolf ที่เน้นท่าเต้นที่เกี่ยวกับหมาป่าที่ดูดุร้าย อัลบั้มที่สองในปี 2013 ก็คืออัลบั้ม XOXO Repackage Album Growl ที่เป็นภาคต่อจากเพลง Wolf ที่แสดงถึงจุดจบของสงครามความรักของชีวิตความเป็นหมาป่าและคน จนกระทั่งในช่วงปลายปีของปี 2013 ในเดือนธันวาคม พวกเขาได้ออกอัลบั้มอีกครั้งกับอัลบั้ม Miracle In December โดยหน้าปกของอัลบั้มจะเป็นทุกคนยืนต่อตัวกันเป็นต้นคริสต์มาส เวอร์ชั่นเกาหลีจะมีหน้าปกเป็นสีแดง แต่ถ้าเวอร์ชั่นจีนจะมีหน้าปกเป็นสีขาว โโยมีเพลงไตเติ้ลคือเพลง Miracle In December ที่แสดงถึงความมหัศจรรย์ในเดือนธันวาคม บอกเล่าถึงความรักที่แสนเศร้าในเดือนธันวาคม
ในทุกอัลบั้มของเอ็กโซนั้นมีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ในอัลบั้ม MAMA จะมีสัญลักษณ์แบบนี้
.jpg)
โดยเวอร์ชั่นเกาหลีจะเป็นสีขาว และเวอร์ชั่นจีนจะเป็นสีดำ
อัลบั้ม XOXO Kiss & Hug มีสัญลักษณ์แบบนี้...
เวอร์ชั่นเกาหลีจะเป็นรูปหัวใจ ส่วนเวอร์ชั่นจีนจะเป็นรูปวงกลม
อัลบั้ม XOXO Repackage Album Growl จะมีสัญลักษณ์แบบเดิม แต่จะแตกต่างกันตรงที่ภาษาเขียน..
.jpg)
เวอร์ชั่นเกาหลีจะเป็นตัวอักษรเกาหลีด้านซ้าย เวอร์ชั่นจีนจะเป็นตัวอักษรจีนด้านขวา
อัลบั้ม Miracle In December มีสัญลักษณ์แบบนี้..
เวอร์ชั่นเกาหลีจะเป็นสีแดงมีสัญลักษณ์เป็นรูปคล้ายปลาสีขาว ส่วนเวอร์ชั่นจีนจะเป็นสีขาวมีสัญลักษณ์เป็นรูปคล้ายปลาสีแดง
สำหรับชื่อแฟนคลับของวง EXO นั้น ยังไม่มีชื่อเรียกประจำตัวแทนแฟนคลับที่เป็นทางการ และสีประจำตัวที่ใช้แทนแฟนคลับนั้นก็ยังไม่มีที่เป็นทางการอีกเช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่จะใช้สีที่ออกขาวๆ (ซึ่งยูเองก็ไม่รู้ว่ามันคือสีอะไร)
เอาล่ะค่ะ ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับศิลปินและแฟนคลับของค่าย SM TOWN สำหรับวง H.O.T และวงอื่นๆที่มีข้อมูลน้อยยูต้องขอโทษจริงๆนะคะ แต่ความรู้ส่วนตัว + ข้อมูลที่หาได้จากทางเนตมันมีแค่นี้จริงๆ ข้อมูลที่ลงไปอาจจะมีผิดพลาดกันบ้าง ถ้าผิดพลาดยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เรื่องสีแฟนคลับ ถ้าอยากเห็นภาพสามารถดูสีได้ที่สีตัวอักษรของวงนั้นๆได้เลยค่ะ เพราะยูปรับสีให้ตรงตามสีแฟนคลับของแต่ละวงแล้วค่ะ สำหรับวงไหนที่เป็นสีขาว ยูจะปรับให้เห็นสีสามารถมองเห็นได้มากขึ้น หรือถ้าไม่มีสีแฟนคลับ ยูก็ปรับให้เป็นสีที่ยูเห็นแฟนคลับใช้กันในปัจจุบันนะคะ
คำถามคือยูชอบศิลปินอะไรในค่ายนี้ ตอบได้เลยค่ะว่ายูชอบวง Super Junior เป็นเอลฟ์ค่ะ เป็นเอลฟ์มาได้ 2 ปีกว่าแล้ว และเมนน้องเล็กคยูฮยอนค่ะ >< แต่ถึงจะเป็นเอลฟ์แต่ก็ซัพพอร์ตทุกวงในเอสเอ็มค่ะ เพราะยูชอบสนับสนุน SM FAMILY และบรรยากาศของครอบครัวนี้
สำหรับตอนหน้าจะเป็นศิลปินและแฟนคลับของค่ายอะไรนั้นอย่าลืมติดตามกันนะคะ ตอนนี้ยูคงต้องขอตัวก่อนแล้วล่ะค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ อันยอง !
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.th.wikipedia.org และเว็บ SiamZone.com ค่ะ
และขอขอบคุณภาพทุกภาพด้วยนะคะ ยูจำเครดิตไม่ได้แล้วยังไงก็ขอโทษนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ :D
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล ชอบเพลงเกาหลีค่ะ
ตอบลบ